เพราะพ่อ...จึงมีวันนี้
ี่
ชีวิตของผู้หญิงคนนี้เริ่มต้นที่จังหวัดนครพนม เป็นลูกอีสานแท้ๆ พ่อเป็นคนสกลนคร แม่เป็นคนนครพนม ผู้หญิงคนนี้มีชื่อว่า "ภัสสร สมเกียรติยศ" ชื่อเล่น "น้ำหวาน" (พ่อกับแม่ตั้งให้) แต่พอจำความได้ก็เปลี่ยนเอง เหลือ "หวาน" เฉยๆ งงตัวเองเหมือนกันค่ะว่าทำไมถึงบอกเพื่อนว่าชื่อ "หวาน" สงสัยคิดว่าเชื่อตัวเองยาวไป:) เกิดวันที่ 28 พฤศจิกายน 2532 คะ เกิดวันอังคาร สีชมพู แต่หวานไม่ชอบสีชมพู หวานชอบสีส้มคะ
หวานเป็นเด็กเรียบร้อยคะ (ไม่ได้คิดเองนะคะ) คนส่วนใหญ่จะบอกว่าหวานเรียบร้อย เป็นลูกตำรวจที่ไม่เหมือนลูกตำรวจ แต่จริงๆแล้วหวานจะมีสองบุคลิก เวลาอยู่กับเพื่อนก็จะแก่นๆเฮี้ยวๆหน่อย แต่พออยู่กับครอบครัวก็จะเป็นอีกแบบนึง (เอ๊ะยังไง) โดยนิสัยแล้วหวานจะพูดน้อย แต่ถ้าได้สนิทแล้วแย่งคนอื่นพูดคะ ชีวิตในวัยเด็กก็ดูราบเรียบไม่ค่อยมีวีรกรรมเท่าไหร่ เป็นเด็กที่ดูแลตัวเองได้ อยู่หอตั้งแต่มัธยมเพราะโรงเรียนไกลจากบ้านประมาณ 50 กิโลเมตร จนกระทั่งตอนอยู่ ม. 6 ถึงตอนที่ตัดสินใจเลืออกคณะที่จะเรียน....มาดูกันนะคะมาหวานเลือกเรียนอะไร และเพราะอะไร
"ครู" คือ คำตอบ
ข้อแรก : พ่อคือต้นแบบตอนที่หวานเป็นเด็ก...มีคนมาถามหวานว่าพ่อทำงานอะไร...คำตอบจากเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆก็ตอบแบบเด็กๆว่า"พ่อหนูเป็น "ตำรวจ" ที่เป็น "ครู" ด้วยคะ คำตอบคำตอบนี้มันรู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่ตอบ :)) ตั้งแต่หวานจำความได้หวานก็อยู่บ้านพักที่ติดกับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ทุกๆครั้งที่พ่อไปสอนนักเรียนหวานก็มักจะตามไปด้วย พ่อสอนหลายวิชามาก เกษตร ดนตรี ภาษาไทย คณิต พ่อขยันมาก ดูแลนักเรียนเป็นอย่างดี พ่อเอาใจใส่ลูกศิษย์ คอยหางานให้ทำ หานู้นหานี่ให้ตลอด (ฟังเค้าเล่ามาอีกที) หวานแอบไปกินนมถั่วเหลืองกับนักเรียนเกือบทุกวัน 555 และบ่อยครั้งที่สมเด็จพระเทพฯ เสด็จมาโรงเรียน หวานก็ไปรับเสด็จต่อแถวรับของเล่นจากพระองค์ท่าน (เป็นความประทับใจ) แต่พอโตขึ้นมาหน่อย พ่อก็ย้ายที่ทำงานไปเป็นทำงานตำรวจอย่างเดียว แต่ความเป็นครูก็ยังติดอยู่ในตัวพ่อเสมอ เวลาที่พ่อไปเยี่ยมหมู่บ้านหรือโรงเรียน ทุกคนก็จะเรียกพ่อว่าครูเสมอ
และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ
ที่ทำให้หวานอยากจะประกอบอาชีพครู
ข้อที่สอง : คำพูดของ "พ่อ"วันที่หวานจะเลือกคณะ พ่อบอกกับหวานว่าเลือกในสิ่งที่ลูกอยากจะเรียน เพราะนี่คือสมบัติที่มีค่าที่สุดที่พ่อจะให้ลูก ความรู้เป็นสิ่งที่ใครก็ขโมยจากเราไปไม่ได้ มันจะอยู่ติดตัวเราไปตลอดชีวิต พ่อเชื่อว่าลูกทำได้เรียนได้ ไม่ว่าจะเลือกคณะอะไรก็ตาม พอพ่อพูดจบแค่นั้นแหละ คำว่า "ครู" ก็ปรากฎขึ้นมาในใจ อาชีพนี้แหละ อาขีพที่จะมอบสมบัติล้ำค่าให้คนอื่น คิดได้ไงหวาน??? ตอบไปว่างั้นหวานเรียนครูนะคะ
เหตุผลสองข้อนี้แหละที่ทำให้หวานเลือกที่จะประกอบอาชีพครู
พอเลือกคณะได้ก็ได้มาเรียนที่คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตอนที่เข้ามาอยู่กรุงเทพช่วงแรกๆรู้สึกอึดอัด ดูวุ่นวายไปหมด ร้องไห้ทุกวันเลยคะ แต่พอนานวันเข้าก็ปรับตัวได้และชินชาไปเอง และอยู่กรุงเทพด้วยความปลอดภัยมาเป็นระยะเวลา 5 ปี พอเรียนจบช่วงแรกๆคิดอยู่อย่างเดียวกลับไปทำงานที่บ้าน นครพนมบ้านเรา แต่พอเรียนจบกลับไปบ้านไม่มีงานให้ทำ ทำไงดีว่างงานอยู่ประมาณสองเดือน บอกพ่อกับแม่ว่าหวานอยากทำงานคะ พ่อก็เลยเสนอ (พ่ออีกแล้ว) พ่อบอกว่างั้นไปทำงานใกล้ๆกรุงเทพหรือที่กรุงเทพ แล้วก็เรียนต่อโทด้วย ก็เลยได้กลับมาอยู่กรุงเทพอีกรอบ โดยมาเป็นครูที่โรงเรียนสมุทรปราการ แล้วก็ได้มาเรียนต่อที่นี้คะ ตอนแรกรู้สึกหนักใจเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย คงเหนื่อยน่าดู แต่พอมาเรียนก็เหนื่อยจริงๆคะ:D ถึงจะเหนื่อยแต่ก็ยังสู้คะ :)
ที่เล่ามาแลดูเหมือนว่าชีวิิตนี้มีแต่พ่อ หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วแม่ละ แล้วความคิดของหวานละ มีมาเกี่ยวข้องในการเลือกทางเดินชีวิตไหม หวานบอกได้เลยว่าหวานมีวันนี้ได้ก็เพราะครอบครัว พ่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับหวาน แม่คือกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ และหวานก็เป็นคนสร้างชีวิตของหวานเองคะ ยิ่งพูดยิ่งคิดถึงพ่อกับแม่ TT
ความคาดหวังในอนาคตอยากจะกลับไปทำงานที่บ้านเกิด (นครพนม) อยากจะกลับไปพัฒนาบ้านเกิด และหวานก็มีความเชื่ออยู่อย่างนึงว่าถ้าไปทำงานที่อื่นก็จะกลายไปเป็นคนที่อื่น...แต่หวานอยากจะเป็นคนนครพนม ที่อยู่นครพนมคะ (สุขที่สุด ณ นครพนม)
ยินดีที่ได้รู้จักกับทุกคนคะ....และก็ดีใจที่ได้มาเรียนที่นี่...มาเรียนรู้ในสถานที่ใหม่ๆ...และพร้อมจะเปิดรับสิ่งใหม่ๆที่จะเข้ามาคะ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น